12 มกราคม 2553

รายงานความก้าวหน้า ครั้งที่ 2


Tensile Testing
รายงานต่อจากครั้งที่ 1 ภายหลังจากการปรึกษากับอาจารย์แล้ว ได้ดำเนินการต่อโดยเริ่มจากการติดตั้งและกำหนดค่าเบื้องต้นของ Arduino environment เพื่อใช้ในการเริ่มติดต่อกับ arduino board ทาง serial port ในขั้นต่อไป ซึ่งสรุปวิธีการติดตั้งและกำหนดค่าเบื้องต้น มาดังนี้

How to get Arduino Running on Mac OS X (10.3.9 or later) or Windows
จะประกอบไปด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้
1.ต้องมี Arduino board และสายเคเบิ้ล (Freeduino ก็โอเคอยู่)
2.Download ตัว Arduino environment มาติดตั้ง
3.ติดตั้ง USB driver
4.เชื่อมต่อเข้ากับ board
5.run ตัว Arduino environment
6.ทำการ upload โปรแกรมเพื่อทำงาน
7.เริ่มต้นพัฒนา (สำหรับโปรแกรม LED นี้ ให้สังเกตการสว่างของ LED)
8.เริ่มเรียนรู้การใช้งาน arduino เบื้องต้นด้วยแบบฝึกหัดต่าง ๆ

เริ่มกันเลยดีกว่า !!!
1.Arduino board ตัว arduino board น้ันจะมีรูปร่างหน้าและส่วนประกอบต่าง ๆ ที่สำคัญ ดังรูป


และนอกจากจะต้องมี Arduino board แล้วจะลืมเสียมิได้ก็คือ สายเคเบิ้ล ถ้าไม่มีให้นึกถึงสาย USB เครื่อง printer ที่บ้าน

แทนกันได้อยู่


2.Download arduino environment

สั้น ๆ ง่าย ๆ คำเดียวเลยก็คือ เราจะต้องมีตัวพัฒนา เพื่อใช้ในการทำงานของเรา ฉะนั้นแล้วเราจำเป็นจะต้องทำการโหลด arduino environment มาติดตั้ง

>> http://arduino.cc/en/Main/Software

3.ติดตั้ง USB drivers

ในการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์กับตัว arduino board นั้น เราจะต้องทำการติดตั้งตัว driver สำหรับ FIDI chip ที่อยู่บนบอร์ดก่อน โดยเราสามารถหาลง driver ดังกล่าวได้จากการ unpack ตัวติดตั้งของ arduino

(เลือกให้ตรงกับเครื่องของตัวเองนะ)

FTDIUSBSerialDriver_v2_1_9.dmg for older (PPC) Macs like the Powerbook, iBook, G4 or G5


FTDIUSBSerialDriver_v2_2_9_Intel.dmg for newer (Intel) Macs like the MacBook, MacBook Pro, or Mac Pro

Download new version>> http://www.ftdichip.com/Drivers/VCP.htm


*หมายเหตุ 1. เมื่อติดตั้งเสร็จ เสียบสายเคเบิ้ลกับบอร์ดแล้วยังไม่สามารถเลือก /dev/tty/usbserial ได้ให้เปิด terminal พิมพ์ตามดังนี้แล้ว restart เครื่อง


$ sudo mkdir /var/lock

$ sudo chmod 777 /var/lock


2. ระบบ windows สามารถโหลดได้จากเว็บไซต์เดียวกันและสามารถ add new hardware wizard เพื่อค้นหา driver

ดูวิธีทำได้ที่ >> http://arduino.cc/en/Guide/Windows


4.เชื่อมต่อเข้ากับ board

แหล่งจ่ายไฟที่บอร์ดจะใช้งานนั้นจะสามารถเลือกได้ระหว่าง USB และ power plugs ในกรณีที่แหล่งจ่ายไฟมาจาก USB

(ซึ่งจะเหมาะสำหรับการทำงานของอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าต่ำ เช่น LEDs) ตำแหน่งของ jumper จะคล่อมสอง pin ในส่วนของ USB ดังรูป


และสำหรับกรณีที่แหล่งจ่ายไฟของเรานั้นมาจาก external power supply (6-12V) ตำแหน่งของ jumper จะคล่อมสอง pin ในส่วนของ power plug (EXT จากรูปข้างต้น) และสำหรับบางตัวที่ไม่มีตัว jumper นั้นบอร์ดจะทำการเลือกให้อย่างอัตโนมัติ หลังจากการเชื่อมต่อแล้ว power LED ควรติดเป็นสีเขียว


5.run ตัว Arduino environment

ให้เราเริ่มเปิดโปรแกรม arduino ที่ทำการติดตั้งไว้ หลังจากทำตาม ข้อ 2

6.ทำการ upload โปรแกรมเพื่อทำงาน

เราสามารถเริ่มต้นการพัฒนาได้เลย สำหรับตัวอย่างนี้จะเปิดตัวอย่างที่มีมาให้จาก

File >> Sketchbook >> Example >> Digital >> Blink และทำการเลือก serial device จาก

Tool >> Serial Port (สำหรับคนใช้ Mac ควรใช้ /dev/tty/usbserial)

หลังจากเราเลือกค่าต่าง ๆ แล้ว เราจะต้องเลือกชนิดบอร์ดที่เราใช้งานจาก Tool>Board สำหรับ arduino ตัวใหม่จะเป็น Arduino Duemilanove or Nano w/ ATmega 328 แต่รุ่นก่อนหน้านี้หรือ Freeduino จะต้องเลือกใช้งานเป็นแบบ Arduino Diecimila, Duemilanove or Nano w/ ATmega 168 เมื่อเราทำทุกขั้นตอนบรรลุแล้ว ให้เรากดลูกศร ดังรูป

*หมายเหต ATmega 168 และ Atmega 328 เป็น micro-controller ที่ถูกใช้ใน Arduino board ใน 168 จะมีส่วนของ memory ขนาด 16 KB แต่ 328 จะมี 32 KB ทั้งคู่จะเสียให้ 2 KB สำหรับการใช้งานในส่วนของ bootloader อีกทั้ง 168 ยังมี SRAM = 1 KB และ EEPROM 512 Bytes ซึ่งใช้ในการอ่านและเขียนข้อมูลเก็บไว้เมื่อต้องปิดบอร์ด สามารถทำได้ประมาณ 100,000 รอบ และสำหรับ 328 นั้นจะมี SRAM = 2 KB และ EEPROM = 1KB

ที่มา :: ATmega 168 data sheet

>> http://www.atmel.com/dyn/resources/prod_documents/doc2545.pdf

ATmega 328 data sheet

>> http://www.atmel.com/dyn/resources/prod_documents/doc8161.pdf

EEPROM

>> http://www.arduino.cc/en/Reference/EEPROM

Arduino Duemilanove (มันแปลว่า 2009 เป็นภาษาอิตาลี)

>> http://www.arduino.cc/en/Main/ArduinoBoardDuemilanove


7.หลังจากที่เรา upload โปรแกรมเสร็จแล้วให้เราสังเกตการสว่างของ LED

8.เราสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้จาก

ตัวอย่าง >> http://arduino.cc/en/Tutorial/HomePage

ข้อมูลอ้างอิงต่าง ๆ >> http://arduino.cc/en/Reference/HomePage



1 ความคิดเห็น: