14 มกราคม 2553
รายงานความก้าวหน้า ครั้งที่ 4
13 มกราคม 2553
รายงานความก้าวหน้า ครั้งที่ 3
12 มกราคม 2553
รายงานความก้าวหน้า ครั้งที่ 2
และนอกจากจะต้องมี Arduino board แล้วจะลืมเสียมิได้ก็คือ สายเคเบิ้ล ถ้าไม่มีให้นึกถึงสาย USB เครื่อง printer ที่บ้าน
แทนกันได้อยู่
2.Download arduino environment
สั้น ๆ ง่าย ๆ คำเดียวเลยก็คือ เราจะต้องมีตัวพัฒนา เพื่อใช้ในการทำงานของเรา ฉะนั้นแล้วเราจำเป็นจะต้องทำการโหลด arduino environment มาติดตั้ง
>> http://arduino.cc/en/Main/Software
3.ติดตั้ง USB drivers
ในการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์กับตัว arduino board นั้น เราจะต้องทำการติดตั้งตัว driver สำหรับ FIDI chip ที่อยู่บนบอร์ดก่อน โดยเราสามารถหาลง driver ดังกล่าวได้จากการ unpack ตัวติดตั้งของ arduino
(เลือกให้ตรงกับเครื่องของตัวเองนะ)
• FTDIUSBSerialDriver_v2_1_9.dmg for older (PPC) Macs like the Powerbook, iBook, G4 or G5
• FTDIUSBSerialDriver_v2_2_9_Intel.dmg for newer (Intel) Macs like the MacBook, MacBook Pro, or Mac Pro
Download new version>> http://www.ftdichip.com/Drivers/VCP.htm
$ sudo mkdir /var/lock
$ sudo chmod 777 /var/lock
2. ระบบ windows สามารถโหลดได้จากเว็บไซต์เดียวกันและสามารถ add new hardware wizard เพื่อค้นหา driver
ดูวิธีทำได้ที่ >> http://arduino.cc/en/Guide/Windows
4.เชื่อมต่อเข้ากับ board
แหล่งจ่ายไฟที่บอร์ดจะใช้งานนั้นจะสามารถเลือกได้ระหว่าง USB และ power plugs ในกรณีที่แหล่งจ่ายไฟมาจาก USB
(ซึ่งจะเหมาะสำหรับการทำงานของอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าต่ำ เช่น LEDs) ตำแหน่งของ jumper จะคล่อมสอง pin ในส่วนของ USB ดังรูป
และสำหรับกรณีที่แหล่งจ่ายไฟของเรานั้นมาจาก external power supply (6-12V) ตำแหน่งของ jumper จะคล่อมสอง pin ในส่วนของ power plug (EXT จากรูปข้างต้น) และสำหรับบางตัวที่ไม่มีตัว jumper นั้นบอร์ดจะทำการเลือกให้อย่างอัตโนมัติ หลังจากการเชื่อมต่อแล้ว power LED ควรติดเป็นสีเขียว
5.run ตัว Arduino environment
ให้เราเริ่มเปิดโปรแกรม arduino ที่ทำการติดตั้งไว้ หลังจากทำตาม ข้อ 2
6.ทำการ upload โปรแกรมเพื่อทำงาน
เราสามารถเริ่มต้นการพัฒนาได้เลย สำหรับตัวอย่างนี้จะเปิดตัวอย่างที่มีมาให้จาก
File >> Sketchbook >> Example >> Digital >> Blink และทำการเลือก serial device จาก
Tool >> Serial Port (สำหรับคนใช้ Mac ควรใช้ /dev/tty/usbserial)
หลังจากเราเลือกค่าต่าง ๆ แล้ว เราจะต้องเลือกชนิดบอร์ดที่เราใช้งานจาก Tool>Board สำหรับ arduino ตัวใหม่จะเป็น Arduino Duemilanove or Nano w/ ATmega 328 แต่รุ่นก่อนหน้านี้หรือ Freeduino จะต้องเลือกใช้งานเป็นแบบ Arduino Diecimila, Duemilanove or Nano w/ ATmega 168 เมื่อเราทำทุกขั้นตอนบรรลุแล้ว ให้เรากดลูกศร ดังรูป
*หมายเหตุ ATmega 168 และ Atmega 328 เป็น micro-controller ที่ถูกใช้ใน Arduino board ใน 168 จะมีส่วนของ memory ขนาด 16 KB แต่ 328 จะมี 32 KB ทั้งคู่จะเสียให้ 2 KB สำหรับการใช้งานในส่วนของ bootloader อีกทั้ง 168 ยังมี SRAM = 1 KB และ EEPROM 512 Bytes ซึ่งใช้ในการอ่านและเขียนข้อมูลเก็บไว้เมื่อต้องปิดบอร์ด สามารถทำได้ประมาณ 100,000 รอบ และสำหรับ 328 นั้นจะมี SRAM = 2 KB และ EEPROM = 1KB
ที่มา :: ATmega 168 data sheet
>> http://www.atmel.com/dyn/resources/prod_documents/doc2545.pdf
ATmega 328 data sheet
>> http://www.atmel.com/dyn/resources/prod_documents/doc8161.pdf
EEPROM
>> http://www.arduino.cc/en/Reference/EEPROM
Arduino Duemilanove (มันแปลว่า 2009 เป็นภาษาอิตาลี)
>> http://www.arduino.cc/en/Main/ArduinoBoardDuemilanove
7.หลังจากที่เรา upload โปรแกรมเสร็จแล้วให้เราสังเกตการสว่างของ LED
8.เราสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้จาก
ตัวอย่าง >> http://arduino.cc/en/Tutorial/HomePage
ข้อมูลอ้างอิงต่าง ๆ >> http://arduino.cc/en/Reference/HomePage